‘‘จตฺตาโร ขนฺธายตนญฺจ เอกํ,
ทฺเว อินฺทฺริยา ธาตุปทานิ สตฺต;
ตโย ปฏิจฺจา อถ ผสฺสสตฺตกํ,
ติเก ตโย สตฺต มหนฺตเร จฯ
‘‘เอกํ สวิตกฺกํ, สวิจารเมกํ;
ยุตฺตํ อุเปกฺขาย จ เอกเมวา’’ติฯ
ปริโยสาเน – ขนฺธา จตุโรติอาทินาปิ อยเมวตฺโถ สงฺคหิโตฯ ตตฺถ ยานิ ปทานิ สทิสวิสฺสชฺชนานิ, ตานิ อุปฺปฏิปาฏิยาปิ สโมธาเนตฺวา ตตฺถ เวทนากฺขนฺธาทิกา ปญฺหา กตาฯ เตสุ เอวํ ขนฺธาทิวิภาโค เวทิตพฺโพฯ เวทนากฺขนฺธาทิปญฺเห ตาว – เอเกนาติ มนายตเนนฯ สตฺตหีติ วิญฺญาณธาตูหิฯ เกหิจีติ ธมฺมายตเน เวทนาทีหิฯ วิญฺญาณธาตุปญฺเห – เต ธมฺมา น เกหิจีติ เต ปุจฺฉาย อุทฺธฏปทํ วิญฺญาณธาตุํ ฐเปตฺวา เสสา ฉ วิญฺญาณธาตุธมฺมา, รูปํ, นิพฺพานญฺจฯ เตหิ สพฺเพสํ ขนฺธายตนานํ สงฺคหิตตฺตา น เกหิจิ ขนฺเธหิ อายตเนหิ วา วิปฺปยุตฺตาฯ เอกาย ธาตุยาติ ยา ยา ปุจฺฉาย อุทฺธฏา โหติ ตาย ตายฯ
[309] อุเปกฺขินฺทฺริยปญฺเห – ปญฺจหีติ อุเปกฺขาสมฺปยุตฺตาหิ จกฺขุวิญฺญาณธาตุอาทีหิฯ อิมินา นเยน สพฺพตฺถ ปุจฺฉาย อุทฺธฏปเทเนว สทฺธิํ วิปฺปยุตฺตานํ วเสน อตฺโถ เวทิตพฺโพติฯ
สมฺปยุตฺเตนวิปฺปยุตฺตปทวณฺณนาฯ
8. อฏฺฐมนโย วิปฺปยุตฺเตนสมฺปยุตฺตปทวณฺณนา
[317] อิทานิ วิปฺปยุตฺเตนสมฺปยุตฺตปทํ ภาเชตุํ รูปกฺขนฺเธนาติอาทิ อารทฺธํฯ ตตฺถ สพฺพาปิ ปุจฺฉา โมฆปุจฺฉาว ฯ รูปกฺขนฺเธน หิ วิปฺปยุตฺตา นาม จตฺตาโร ขนฺธา, เตสํ อญฺเญหิ สมฺปโยโค นตฺถิฯ เวทนากฺขนฺเธน วิปฺปยุตฺตํ รูปํ นิพฺพานญฺจ, ตสฺส จ เกนจิ สมฺปโยโค นตฺถิฯ เอวํ สพฺพปเทสุฯ วิปฺปยุตฺตานํ ปน สมฺปโยคาภาโว เวทิตพฺโพฯ อิติ ปุจฺฉาย โมฆตฺตา สพฺพวิสฺสชฺชเนสุ นตฺถิ นตฺถิอิจฺเจว วุตฺตนฺติฯ
วิปฺปยุตฺเตนสมฺปยุตฺตปทวณฺณนาฯ
9. นวมนโย สมฺปยุตฺเตนสมฺปยุตฺตปทวณฺณนา